วันที่ 7 ก.ค. 2568 เวลา 14.00 น. ที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ฝั่งขาเข้าประเทศ นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นางสาววรรณา ผู้อุตส่าห์ นายด่านศุลกากรหนองคาย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย, พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง, ตำรวจ, ทหาร, นรข., ฝ่ายปกครองได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายวิรัตน์ อายุ 24 ปี ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก และนางลาอะลิน อายุ 25 ปี ชาวลาว พร้อมของกลาง แฮปปี้วอเตอร์ ชนิดผง แบบซอง บรรจุซองน้ำหนัก 80 กรัม จำนวน 55 ซอง น้ำหนักรวมประมาณ 4.4 กิโลกรัม ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 มีส่วนผสมหลักเป็นยาอี และเคตามีน มักนิยมนำไปผสมน้ำ กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักเที่ยวกลางคืนตามสถานบันเทิงต่างๆ
การจับกุมในครั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (7 ก.ค.) ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรพร้อมกระเป้าเดินทาง จำนวน 1 ใบ โดยใช้รถประจำทางผ่านผ่านด่านพรมแดนหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย
เมื่อผู้โดยสารทั้งสองเดินตามช่องทางผู้โดยสารขาเข้า มายังจุดตรวจสัมภาระของศุลกากร เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนหนหนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฯ ชุด ฉก.สนค. ได้เรียกตรวจกระเป้าของผู้โดยสารทั้งสองด้วยเครื่อง X-Ray สัมภาระ และพบความผิดปกติในภาพเอกซเรย์ จึงขอทำการตรวจค้นสัมภาระภายในกระเป้าอย่างละเอียด
ผลการตรวจค้น พบสิ่งของคล้ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แฮปปี้วอเตอร์ (Happy Water) บรรจุในห่อสีดำซุกกซ่อนในกระเป้าเดินทาง จำนวน 55 ซอง น้ำหนักรวมประมาณ 4.4 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวอย่างมาทำการทดสอบด้วยน้ำยา บ่งชี้ว่ามีส่วนผสมของสารเสพติด
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นแฟนกัน โดยฝ่ายชายได้เดินทางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ แล้วไปรับยาเสพติดกลับเข้าประเทศ ซื้อมาซองละ 5 แสนกีบ หรือประมาณ 800 บาท และจะนำไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก แต่มาถูกจับได้เสียก่อน ซึ่งแฮปปี้วอเตอร์นี้หากนำไปจำหน่ายในสถานบันเทิงหรือตามกลุ่มที่นิยมราคาจะอยู่ที่ซองละ 2,000-3,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อสอบสวนขยายผลและติดตามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
No comments:
Post a Comment