Friday, April 25, 2025

ผวจ.หนองคาย นำทีมลุยชมสวนลิ้นจี่ นพ.1 ปีนเก็บผลจากต้นชิมกันสดๆ รสชาติหวานอร่อย ปีนี้ออกผลดกเก็บขายสองวันได้เงินหลักหมื่น


วันที่ 25 เม ย. 2568 นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย นายสันติภาพ โทนหงส์สา เกษตรจังหวัดหนองคาย นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอท่าบ่อ นายเกรียงศักดิ์ ถวายชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  เจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรฯ และสื่อมวลชนลุยสวนลิ้นจี่  ณ  สวนลิ้นจี่ "เสนาคำ" เลขที่ 3 บ.สมสร้าง หมู่ที่ 6 ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ของนางบุญปอง เสนาคำ อายุ 58 ปี และยังมีตำแหน่งเป็น ประธานสหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ จำกัด  ที่ได้เริ่มดำเนินการปลูกลิ้นจี่มาตั้งแต่ปี 2562 สายพันธุ์ พน.1  หรือ นครพนม 1


โดยเจ้าของสวนได้พาปีนต้นลิ้นจี่ซึ่งเป็นวิถีชีวิตการเก็บของชาวสวนให้ชมกันถึงในสวน ในปีนี้มีผลผลิตออกมามากกว่าทุกปี รสชาติอร่อย ผิวสีแดงคล้ำ รสหวาน เปลือกตึงหนามตั้งสั้นๆ เปลือกด้านในเป็นสีแดง เนื้อขาวนวล หอม และลูกขนาดใหญ่




นางสมปองฯ กล่าวว่า พื้นที่ปลูกลิ้นจี่มีทั้งหมด 13 ไร่ เมื่อก่อนปลูกพืชหลายอย่าง ทั้งอ้อย มันสัมปะหลัง มะเขือ พริก ยาสูบ ซึ่งมันซ้ำซาก ราคาก็ตกต่ำ ก็เลยหันมาปลูกลิ้นจี่ตั้งแต่ 2562 โดยมีโอกาสไปศึกษาดูงานที่นครพนมเห็นมีปลูกกันเยอะมาก จึงซื้อสิ้นจี่ พน.1 มาลงมือปลูกจำนวน 50 ต้น ปลูกได้ 3 - 4 ปี ก็มีผลผลิตออกมาพอได้ขาย ก็เลยไปเอาลิ้นจี่มาปลูกเพื่มอีก ชาวบ้านในพื้นที่ก็หาว่าตนเป็นบ้า แต่ลิ้นจี่ออกผลผลิตมาขายได้ทุกปี


ประธานสหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ จำกัด กล่าวอีกว่า การปลูกลิ้นจี่ดูแลง่ายกว่าการปลูกทุเรียน ซึ่งช่วงนั้นได้ปลูกทุเรียน ฝรั่งแซมไปด้วย  ซึ่งฝรั่งก็ได้ผลผลิตดี แต่ต้องดูแลรักษาด้วยการห่อผลฝรั่ง ถ้าไม่ห่อก็จะมีแมลงมากินผลฝรั่งทำให้เสียหายไม่สามารถขายได้ ส่วนทุเรียนที่นำมาปลูกหมดเงินไป 20,000 กว่าบาท สุดท้ายตายหมด ตอนนี้เน้นปลูกลิ้นจี่อย่างเดียวจนเต็มพื้นที่


ส่วนตลาดมีทั้งขายออนไลน์ ขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 80 บาท รวมทั้งนำไปขายที่สหกรณ์การเกษตรท่าบ่อฯ ตามสำนักงานต่างๆ และในหมู่บ้าน กิโลกรัมละ 90 บาท สองวันมานี้ตนเก็บลิ้นจี่ขายไปกว่า 120 กิโลกรัม ได้เงินมาแล้วกว่า 10,000 บาท ลิ้นจี่ปีนี้ออกผลเยอะ อีกทั้งเป็นพืชออกผลที่มีอายุสั้นเพียง 15 วันเท่านั้น ทำให้ตนต้องเร่งเก็บผลผลิตออกสู่ตลาด ขาดว่าปีนี้จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท








No comments:

Post a Comment