หนองคาย ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายรับตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 ราย หลังหนีกบดานที่ สปป.ลาว ทราบประวัติไม่ธรรมดา

วันที่ 8 ม.ค. 2568 เวลา 10.00 น. พล.ต.ต พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.จามร อันดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผู้กับกับสถานนีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการรับมอบตัวผู้ต้องหาคือ นายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี และนายสัตจะยา เพ็งนวล หรือโบ๊ท อายุ 29 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาลพบุรี จาก สปป.ลาว โดยมี พ.อ.กง คะนะลังสุก รองหัวหน้ากองบัญชาการ ปกส.นครหลวงเวียงจัน, พ.ท.สมแพง ตึ่งคำเพ้า รองหัวหน้ากองบัญชาการ ปกส.นครหลวงเวียงจันทร์ พร้อมคณะทางการลาว ได้ให้ความร่วมมือในการช่วยจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับไทย ณ.ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1

พล.ต.ต พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ตามนยาบายของรัฐบาลให้มีการกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยสถานนีตำตรวจภูธรจังหวัดหนองคายรับการประสานจากสถานีตำรวจภูธรสายไหม ว่ามีผู้ต้องหาคดียาเสพติดและใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ได้หลบหนีจากพื้นที่ จากนั้นได้สืบทราบว่าได้หนีข้ามไปที่ สปป.ลาว ทางช่องทางธรรมชาติ จึงได้ประสานไปยัง ทางการลาวทราบและสามารถจับกุมได้

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับคดี สืบเนื่องจากวันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลา 22.35 โดยประมาณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สายไหม ได้เข้าจับกุมแก๊งยาเสพติดในพื้นที่ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ส่วนนายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง ได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนีและได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปได้  จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าได้หลบหนีข้ามไปที่ สปป.ลาว

ใ

นส่วนผู้ต้องหารายที่ 2 นายสัตจะยา เพ็งนวล หรือโบ๊ท กล่าวหาว่า สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปและร่วมกันมียาเสพติด โดย สภ.ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 184,800 เม็ด และยาบ้าเปียกน้ำ น้ำหนักร่วม 3,985 กรัม อาวุธปืนพกสั้น.38 ยี่ห้อ Glock 1 กระบอก ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน เครื่องกระสุนอีก 47 นัด จากนั้น บก.ปปส.ภ.1ขยายผลขออนุมัติจับ นายสัตจะยา เพ็งนวล หรือโบ๊ท ซึ่งต่อมาได้สืบทราบว่าได้หลบหนีมากับดานที่ สปป.ลาว

ด้านนายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง ผู้ต้องหาคดียาเสพและใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ได้พูดความในใจ พร้อมกล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บว่า ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้อาวุธปืนยังเจ้าหน้าที่ แต่เพราะเป็นอารมณ์ชั่ววูบในขณะนั้น หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ จะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปที่สภ.เมืองหนองคาย เพื่อที่จะได้สงให้ สภ.สายไหม และ สภ.ชัยบาดาล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป