Saturday, October 12, 2024

หนองคาย - มท.2 เปิดประเพณีการแข่งขันเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 14 ประจำปี 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่ และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านในลุ่มน้ำโขง


วันที่ 12 ต.ค. 2567 ที่ บริเวณลานวัฒนธรรมริมเขื่อนแม่น้ำโขง หมู่ที่ 2 เทศบาลตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดประเพณีการแข่งขันเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 14 ประจำปี 2567  โดยมี นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต้อนรับ นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ  กล่าวรายงานข้อมูลของอำเภอท่าบ่อ ว่าที่ร้อยตรี วิทยา คำพวง นายกเทศมนตรีตำบลโพนสา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันฯ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก




นายกเทศมนตรีตำบลโพนสา กล่าวว่า การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ เป็นประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีเรือในพื้นที่และต่างจังหวัด รวมทั้งเรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าร่วมการแข่งขันจนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้ได้กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8 - 12 ตุลาคม 2567 เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ที่สืบทอดกันมายาวนาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดสามัคคี ความสมานฉันท์ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชนในท้องถิ่น และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านในลุ่มน้ำโชง โดยคณะกรรมการจัดการแข่งขันเรือยาว ได้เชิญเรือที่มีชื่อเสียงจากต่างจังหวัด ทีมเรือในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้าร่วมการแข่งขันประเภทเรือยาวขนาดใหญ่ 50 - 55 ฝีพาย (ประเภททั่วไป) จำนวน 8 ลำ




ภายในงานพิธีเปิดมีการแสดงรำเฉลิมพระเกียรติคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 69 พรรษา และยังได้จัดให้มีการจำหน่ายสินค้า และถนนอาหาร ของดีโพนสา มีการแสดงวงดนตรีของนักร้องชื่อดังตลอด 5 วัน ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง








No comments:

Post a Comment