น้ำโขงหนองคายเริ่มลดอย่างช้าๆ แต่ชาวท่าบ่อยังเดือดร้อนหนักจากน้ำห้วยโมงล้นตลิ่งทะลักท่วมบ้านเรือน ถนน ปิดเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ หน่วยทหารพัฒนาเร่งช่วยชาวบ้านอพยพไก่หนีน้ำ

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2567 สถานการณ์น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ จ.หนองคายเริ่มลดลงอย่างช่าๆ อยู่ที่ 13.36 เมตร  ลดลง 40 เซนติเมตร แต่ยังสูงกว่าตลิ่งประมาณ 1.35 เมตร ชาวบ้านบางส่วนได้เริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนแล้ว โดย พลตรี วีระยุทธ รักศิลป์ ของแม่ทัพภาคที่ 2 (1) ลงพื้นที่ตำรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย และติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.หนองคาย

รวมทั้งมอบยากันยุงให้กับนางถนอม สมศรี กำนันตำบลกองนาง เพื่อนำไปมอบให้กับ อสม.นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน และยังเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียงและมอบยาเวชภัณฑ์  พร้อมมอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านกองนาง หมู่ที่ 11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ ซึ่ง รอง มทภ.2 ได้พูดคุยกับกำนันตำบลกองนางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ในการดูแลพี่น้องประชาชนระหว่างน้ำลด และระหว่างเร่งฟื้นฟูให้ครอบคลุมทุกมิติ หากเกินความสามารถในจุดใดให้ขอความช่วยเหลือจาก มณฑลทหารบกที่ 24 , กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 เพื่อร่วมกันแก้ไขเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่องอย่างดีที่สุด ก่อนเดินทางไปปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย

ในขณะที่น้ำโขงได้เริ่มลดระดับลง แต่สวนทางกับลำห้วยโมงที่เป็นลำน้ำสาขาได้เพิ่มสูงขึ้น หลังจากฝนตกหนัก มีน้ำป่าไหลมาจากอุดรธานีและหนองบัวลำภู และมวลน้ำจากลำน้ำสาขาไหลเข้าลำห้วยโมงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยโมงเกินความจุกักเก็บ เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 169.67 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นระดับน้ำสูงสุดเทียบเท่าเมื่อปี 2551 ทำให้น้ำล้นอ่างเก็บน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ รวม 5 ตำบล 1 เทศบาลเมือง คือ ต.ท่าบ่อ ต.กองนาง ต.น้ำโมง ต.นาข่า ต.บ้านว่าน และเทศบาลเมืองท่าบ่อ ชาวบ้านต้องย้ายขึ้นมาอยู่บริเวณริมถนน ใช้เป็นที่พักชั่วคราว 

โดยเฉพาะบ้านอุ๋มเย็น ,บ้านฝาง และบ้านลำดวล ต.น้ำโมง น้ำท่วมถนนและการเข้าออกหมู่บ้านต้องใช้รถยกสูงเท่านั้น เนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร ปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน และระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ไหลบ่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน มีชาวบ้านหลายคนขนข้าวข้องหนีน้ำไม่ทัน โดยเฉพาะบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ติดกับริมลำห้วยโมง และอยู่ต่ำกว่าถนน ต้องขอความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยให้ช่วยยกของหนัก ทั้งรถจักรยานยนต์ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ ชาวบางรายเตรียมนำกระสอบทรายไปปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลท่วมบ้านตนเอง

 

โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานภาค 2 หน่วยทหารพัฒนา ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็วพร้อมรถบรรทุกสัมภาระ 6 ล้อ 1 คัน ปฏิบัติงานร่วมกับ จนท.กรมปศุสัตว์ เข้าช่วยเหลือประชาชนที่เลี้ยงไก่ไข่ประสบภัยจากน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่ บ้านทุ่ม ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ โดยช่วยกันขนย้ายแม่พันธุ์ไก่ไข่ จำนวน 2,000 ตัว และอุปกรณ์ภายในฟาร์มไก่ไข่ขนย้ายไปไว้ในที่ปลอดภัย พร้อมทำที่พักชั่วคราวให้กับไก่ไข่ที่โดนน้ำท่วม โดยการประกอบและขนย้ายเต๊นท์ จำนวน 2 หลัง ไปไว้บนพื้นที่สูง พร้อมลำเลียงไก่ไข่ จำนวน 3,000 ตัว และไข่ไก่ จำนวน 4,000 ฟอง จากเส้นทางที่ถูกตัดขาดเข้าโรงเลี้ยงไก่ไข่ ออกนอกพื้นที่น้ำท่วม 

กระแสน้ำของลำห้วยโมงยังไหลเข้าท่วม 4 หมู่บ้านของ ต.กองนาง กลายเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ คือ บ้านหงส์ทอง, บ้านสามขา, บ้านดอนหมี และบ่านนาบง ชาวบ้านต้องอาศัยเรือเข้าออกบ้านแทน ทำมาหากินลำบาก ซึ่งเนื่องจากระดับน้ำในน้ำโขงได้ลดระดับลงต่ำกว่าระดับน้ำลำห้วยโมง 7 เซนติเมตร ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง ได้ดำเนินการเปิดบานระบายทั้งหมด 4 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำจากลำห้วยโมงลงสู่แม่น้ำโขง และเพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในลำน้ำโมงที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้