แก้เคล็ดเมรุใหม่ เผา "ตากล้วย อายุยืน" อายุ 120 ปี นักเสี่ยงโชคแห่ส่องเลขฝาโลง เลขที่บ้าน อายุ วันเดือนปีเกิดและวันตายลุ้นหวย

แก้เคล็ดเมรุใหม่! วัดศรีชมภูองค์ตื้อและชาวบ้านน้ำโมงจัดพิธีเผา "ตากล้วย อายุยืน" มีอายุ 120 ปี เปิดฤกษ์ฉลองเมรุใหม่ จัดพิธีสวดยันลอยอังคาร นักเสี่ยงโชคแห่ส่องเลขฝาโลง เลขที่บ้าน อายุ วันเดือนปีเกิดและวันตายลุ้นหวย

วันที่ 19 ก.ค. 2567 เวลา 13.00 น. ที่ วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง หมู่ที่ 2 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พระศรีญาณวงศ์ ดร. ป.ธ.9 รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เจ้าอาวาสวัดศรีชมภูองค์ตื้อ พร้อมคณะสงฆ์ คณะกรรมการวัดฯ สามาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ และชาวบ้านน้ำโมงทั้ง 4 ชุมชน ร่วมกันจัดพิธีเผาศพ "ตากล้วย อายุยืน" มีอายุ 120 ปี ซึ่งทำจากต้นกล้วยแก้เคล็ดเมรุหลังใหม่ ตามความเชื่อ ที่ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน โดยมี พระศรีวชิรโมลี ป.ธ.9  รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เจ้าอาวาสวัดชัยพร อ.เมืองหนองคาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และแสดงพระธรรมเทศนา มีนายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์  ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

สำหรับเมรุหลังใหม่เป็นเมรุพลังงานไฟฟ้า จำนวน 2   เมรุ ใช้น้ำมันดีเซลB7 เป็นใช้เชื้อเพลิงในการเผาไฝ 60 ลิตรต่อ 1 ศพ ซึ่งได้สร้างให้เป็นพื้นอเนกประสงค์ศาลาฌาปณสถาน ชื่อ อาคารสัปปานะสถาน พระศรีญาณวงศ์ ดร. 2566

พิธีศพได้มีการจัดตกแต่งโลงศพ จัดดอกไม้ ธูปเทียน พวงหรีด อ่านประวัติ ทอดผ้าบังสุกุล วางดอกไม้จันทน์  ล้างหน้าศพ นำโลงศพเข้าสู่เตาเผาเพื่อทำการฌาปนกิจ และลอยอังคารคล้ายกับงานศพทุกอย่าง ต่างเพียงนำต้นกล้วยมาใส่ในโลงแทนศพ และยังได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดต่างๆในพื้น มาประกอบสวดพระอภิธรรมถึง 29 รูป เพื่อเป็นการแก้เคล็ดไม่ให้คนในพื้นที่ล้มตายบ่อยๆ รวมทั้งเพื่อให้เมรุดังกล่าว สามารถใช้งานโดยไม่ติดขัดปัญหาอะไร

ในระหว่างพิธีก็ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งและบรรดานักเสี่ยงโชคก็ยังแอบส่องดูเลขฝาโลงที่เชื่อว่าเป็นตัวเลขให้โชค รวมทั้งวันเดือนปีเกิดและวันตาย ซึ่งตากล้วยฯ เกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2447 ณ บ้านเลขที่ 447 หมู่ที่ 99 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 12.36 น. อายุได้ 120 ปี ซึ่งเลขอายุตรงกับเลขฝาโลง เพื่อนำไปเสี่ยงโชค