Thursday, May 9, 2024

หดหู่ใจ! ลูกปั่นจักรยานตากแดดร้อนๆ ไกลกว่า 3 กม. พาพ่อแม่ที่แก่เฒ่า เหงื่อท่วมตัว มาสแกนหน้าใช้สิทธิบัตรคนจน 300 บาท


ลูกปั่นจักรยานตากแดดร้อนๆ ไกลกว่า 3 กม. พาพ่อแม่ที่แก่เฒ่า มาสแกนหน้าใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 300 บาท ลูกชาย 2 คนเป็นบุคคลตกหล่น ไม่มีบัตร ปชช. ไม่สามารถใช้สิทธิ์แทนได้


คลิป TikTok ชื่อพี่เพ็ญ @piyasa6788 ลงคลิประบุว่า "300 บาทแต่ละคนไม่เท่ากัน  พ่อลูกปั่นจักรยานมาใช้สิทธิ์ที่ร้าน ระยะทาง 3 กม. อีกวันปั่นพาแม่มาใช้สิทธิ์ สแกนใบหน้า ตา 86 ยาย 78" จนกลายเป็นไวรัล มีคนแชร์ โพส 116 ครั้ง ยอดไลค์กว่า 1 แสน 9 หมื่น วิว และมีคอมเม้นต์กว่า 500 ข้อความ

ล่าสุดวันนี้ 9 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับเจ้าของคลิป ชื่อ น.ส.ปิยสา พรมมา (พี่เพ็ญ) อายุ 47 ปี เจ้าของร้านธงฟ้าประชารัฐ ชื่อร้าน OPEN เลขที่ 270 หมู่ 1 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย อยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดสดชุมชนน้ำโมง เปิดเผยว่า คลิปดังกล่าว ตนได้ลง Tik Tok เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา วันนั้นเห็นลูกค้ามาใช้สิทธิ์บัตรประชารัฐเหงื่อแตกโชก จึงทราบว่าพากันปั่นจักรยานมา ตนรู้สึกตกใจถึงความยากลำบากของคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่มียานพาหนะที่สะดวกสบาย ถ้าไม่มีลูกชายพามาก็คงไม่ได้ใช้สิทธิ์ ในสิ่งที่เสนอออกไปก็คือการใช้เงินบัตรสวัสดิการฯ  เรื่องความจนก็จนอยู่แล้วถึงจะได้บัตร ตนก็ต้องการสื่อไปว่า กว่าจะได้เงิน 300 มันต้องขนาดนี้เลยเหรอ 300 ของแต่ละคนมันก็ไม่เท่ากัน บางคน 300 ใช้ได้ทั้งปีทั้งเดือน  อย่างที่มาสองคนก็คือ 600 ซึ่ง 600 นี้ต้องใช้ความพยายามมาใช้สิทธิ์ใช้ไหม ตนรู้สึกหดหู่ใจ เพราะว่าในเรื่องของการใช้สิทธิ์ของคนแก่มีความลำบากจริงๆ คนอายุ 70 , 80 ไม่ออกบ้านกันแล้ว มันเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเดินทาง หกล้ม รถชนอะไรประมาณนี้ ตนก็อยากจะเป็นสื่อกลางส่งถึงรัฐบาล ในส่วนของเรื่องการใช้บัตรสวัสดีการฯควรออกนโยบายรองรับสำหรับคนแก่ ถ้าคุณต้องการสแกนใบหน้าเจ้าหน้าที่ควรออกมาบริการสแกนใบหน้าดีกว่าไหม ไม่ต้องให้เค้าไปที่ธนาคาร คืออยากให้เค้าสะดวกสบายมากกว่านี้ บางคนไม่มีลูกหลานพามาก็คือขาดสิทธิ์ 300 บาทไปเลย รู้สึกหดหู่ตรงนี้ เงินก็ไม่ได้ กว่าจะได้เงินก็ลำบาก



จากนั้นผู้สื่อได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 1 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ พบกับนายทองพูน แทนสิงห์ อายุ 50 ปี เป็นบุคคลที่ปั่นจักรยานพาพ่อ นายสี อายุ 84 ปี และแม่ นางสีดา อายุ 78 ปี ไปใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐถึง 3 กม. เปิดเผยว่า วันนั้นไม่มีข้าวกินจึงได้ปั้นจักรยานพาพ่อกับแม่ไป ซึ้งลำบากมาก โดยเฉพาะตนกับน้องชายยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนเพราะตกหล่น ไม่ได้สวัสดิการจากรัฐ จะใช้บริการอะไรก็ต้องเสียเงินเอง ตนเกิดที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พ่อแม่ตนพาย้ายถิ่นฐานไปเลื่อยๆ จึงไม่ได้แจ้งเกิดทำให้ตกหล่น วันนั้นพาแม่ไปใช้สิทธิ์บัตรประชารัฐประมาณเที่ยงวัน แล้วจะพาพ่อไปช่วงเย็น แต่กลับมาถึงบ้านรู้สึกเหนื่อยจึงพักผ่อน วันต่อมาถึงพาพ่อไป เพราะต้องสแกนใบหน้า จะมอบหมายสิทธิ์ให้ก็ไม่ได้เพราะตนไม่มีบัตรประชาชน จำเป็นต้องปั่นจักรยานพาทั้งสองคนไป ตอนนี้ตนอยากได้บัตรประชาชน รวมทั้งพ่อกับแม่ก็สุขภาพไม่ดี อยากให้ทำบัตรคนพิการทั้งสองคน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย ลงพื้นพื้นที่ทำการจัดเก็บข้อมูลเพิ่อดำเนินการช่วยเหลือด้านสวัสดิการต่างๆ รวมถึงจะดำเนินการติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำบัตรประจำตัวประชน ให้กับนายทองพูน เนื่องจากพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ สามารถตรวจดีเอ็นเอได้ เพื่อให้นายทองพูนได้มีสวัสดิการฯ ต่างๆ ของทางภาครัฐ ต่อไป












No comments:

Post a Comment