พายุฤดูร้อนถล่มศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลังคาบ้านเรือนประชาชนปลิวว่อน ทับเด็กหญิงวัย 11 ขวบ กะโหลกศรีษะแตกต้องหามส่งโรงพยาบาล ถึงคั้นผ่าตัด แรงพายุยังพัดเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นอีก 16 ต้น ขณะที่เจ้าอาวาสวัดจันทราวาส เผยพายุถล่มครั่งนี้หนักสุดในรอบ 25 ปี
วันที่ 4 พ.ค. 2567 นายจรัญ กลางประดิษฐ นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอาวุโสฯ นายวิลัย จันทร์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลหนองปลาปาก พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากพายุพัดถล่มเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 3 พ.ค. 67 ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 261 หมู่ 6 ชุมชนโพนงาม ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของนางสาวมณีสร สิงอานง อายุ 50 ปี ถูกพายุพัดหลังคาบ้านเสียหายและปลิวออกจากตัวบ้าน แถมเศษคานของหลังคาบ้านยังหล่นทับศรีษะลูกสาว เด็กหญิงขวัญแก้ว อายุ 11 ขวบ จนศรีษะแตก
นายอายุสิน สิงอานง อายุ 19 ปี ลูกชายของเจ้าของบ้าน เล่าว่า ช่วงก่อนพายุเข้าตนได้ออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระ ไม่นานก็เกิดลมพายุพัดกระโชกมาอย่างแรง ตนเป็นห่วงคนในบ้านจึงรีบกลับมา พบว่าหลังคาบ้านได้ปลิวหายไป แล้วยังเห็นน้องสาวนอนสลบอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องครัวหลังบ้าน พบว่าแม่กำลังอยู่ในอาการตกใจทำอะไรไม่ถูก ซึ่งจุดที่น้องสลบยังพบเศษคานหลังคาตกอยู่และมีคราบเลือดติดอยู่ด้วย ตนจึงรีบไปอุ้มน้องสาวขึ้นแล้วพาแม่ไปหลบอยู่ในห้องน้ำ แล้วน้ำผ้าขนหนูมาเช็คเลือดที่ศรีษะของน้อง ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงอุ้มน้องวิ่งฝ่าพายุไปขอความช่วยเหลือกับเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพาน้องกับแม่ไปหาหมอ ซึ่งในขณะนั้นน้องสาวก็เริ่มรู้สึกตัวแล้ว ขณะที่พาน้องไปหาหมอในระหว่างทางยังเจอต้นไม้ใหญ่ล้มทับขวางถนนถึง 2 ต้น ตนจึงตัดสินใจอุ้มน้องพาแม่ออกจากรถวิ่งรอดต้นไม้ไปขอความช่วยเหลือรถที่วิ่งผ่านมา ผ่านไปสองคันก็ยังไม่มีให้การช่วยเหลือ กระทั่งมีพลเมืองดีมาแตะไหล่แล้วบอกว่า "น้องไปรถพี่ก็ได้" ถึงได้พาน้องไปรักษาที่ รพ.ศรีเชียงใหม่ ทางโรงพยาบาลฯได้พาน้องไปทำการเอกซเรย์สมอง แล้วออกมาแจ้งว่าพบกะโหลกแตก แต่ยังไม่ถึงสมอง ต้องส่งตัวไปที่ รพ.หนองคาย เพื่อทำการผ่าตัด ซึ่งตอนนี้น้องสาวอาการปลอดภียแล้ว แต่ยังต้องนอนฟื้นตัวที่ห้อง ICU ทางโรงพยาบาลฯยังบอกว่า ถ้ามาช้ากว่านี้อาจจะช่วยเหลือไม่ทัน
ด้าน พระครูปริยัติจันทคุณ เจ้าอาวาสวัดจันทราวาส เล่าว่า วานนี้ ตอน 18.00 น. ฝนได้ตกลงมาอย่างแรงและมีลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้ภายในวัดหักโค่น แรงลมยังพัดกระเบื้องหลังคาโบสถ์ปลิวว่อนไปหลายแผ่น ร่วมทั้งหน้าต่างบานกระจกที่หอระฆังยังถูกแรงลมพัดตกลงมาแตก ข้าวของเครื่องใช้ในโบสถ์ได้รับความเสียหายหมดจากน้ำฝนที่ตกลงมา ตั้งแต่อาตมามาจำพรรษาที่วัดนี้ตั้งแต่ปี 2542 ก็มีพายุเข้าตลอด แต่ไม่หนักเหมือนครั้งนี้ ถือว่าหนักสุดในรอบ 25 ปี
นอกจากนี้สภาพเสาไฟฟ้าแรงสูงทั้งสองข้างถนนทางหลวงชนบท เส้นศรีเชียงใหม่ - โพธิ์ตาก ช่วงหมู่ 6 บ้านไทยสามัคคี กับหมู่ 10 บ้านดอนก่อ ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ หักโค่นเสียหายถึง 16 ต้น หลังถูกพายุฝนและลมกระโชกแรง ทำให้ชาวบ้านหลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เร่งซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่หักโค่นแล้วและเดินสายไฟฟ้าอย่างเต็มกำลัง คาดว่าจะปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนในพื้นที่ได้ในช่วงเย็นวันนี้
เบื้องต้นอำเภอศรีเชียงใหม่ มีบ้านเสียหายจากอิทธิพลพายุฤดูร้อนใน 4 ตำบล คือ ต.พานพร้าว ต.หนองปลาปาก ต.บ้านหม้อ ต.พระพุทธบาท รวม 228 หลังคาเรือน เสียหายหนักสุด 30 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง วัด 4 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ 1 แห่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1ราย ส่วนพืชผลทางการเกษตร คอกปศุสัตว์ยังอยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจความเสียหาย
No comments:
Post a Comment