นายแพทย์ สสจ.หนองคาย เปิด"กุฏิชีวาภิบาล" ดูแลพระภิกษุสงฆ์ สามเณรอาพาธโรคเรื้อรังระยะสุดท้าย พร้อมลงนาม MOU การจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลวัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
วันที่ 5 เม.ย. 3567 ที่ กุฏิชีวาภิบาล วัดรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นพ.สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิด "กุฏิชีวาภิบาล" โดยมี พระกิตติสารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย (ธ) เจ้าอาวาสวัดรัญญวาสี ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระครูสุธีวรญาณ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย (ธ) เจ้าอาวาสวัดยางขาว, พระครูพิพัฒนธรรมาจารย์ รองเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อ (ธ) เจ้าอาวาสวัดนาโพธิ์, พญ.ฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ หน้าส่วนราชการ จนท.สาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีเปิดฯ กิจกรรมที่สำคัญ คือ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาล ระหว่างพระกิตติสารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย (ธ) เจ้าอาวาสวัดรัญญวาสี ประธานฝ่ายสงฆ์ กับพญ.ฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ โดยมี นพ.สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU
พญ.ฤดีมน สกุลคู ผอ.รพร.ท่าบ่อ กล่าวว่า ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2567 ยกระดับ 30 บาท พลัส เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติด้านสุขภาพ เป้าหมาย "ประชาชนคนไทยสุขภาพดี ประเทศไทยสุขภาพดี" ผ่าน 13 ประเด็น โดยในประเด็นที่ 8 เป็นการจัดตั้งสถานชีวาภิบาล เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการดูแลระยะยาว และการดูแลแบบประคับประคองระยะสุดท้าย ในรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน ท้องถิ่น และประชาชน ให้ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ ด้านกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม
ผอ.รพร.ท่าบ่อ กล่าวอีกว่า การจัดตั้งกูฏิชีวาภิบาล ณ วัดอรัญญวาสี มีเป้าหมายให้การดูแล พระภิกษุสงฆ์ สามเณรอาพาธ ที่มีภาวะพึ่งพิงหรืออาพาธโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ต้องดูแลในระยะประคับประครอง หรือระยะสุดท้ายของชีวิต ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการให้ได้มาตรฐานการดูแล ทั้งด้านสาธารณสุขและด้านพระธรรมวินัย ด้วยความร่วมมือระหว่าง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กับวัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยได้รับงบสนับสนุนการปรับปรุงด้านสถานที่จากมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และแรงงานจากจิตอาสาตำบลท่าบ่อ รวมถึงคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
No comments:
Post a Comment