Saturday, August 31, 2024

ผอ.กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท. นำสื่อมวลชนทัศนศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝน Green Season แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ "ดอนป่าเปือย" เตรียมบรรจุในปฏิทินเส้นทางท่องเที่ยวเสริมสิริมงคลตามความเชื่อเชื่อมโยงเส้นทางพญานาค บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี


วันที่ 31 ส.ค. 2567 นางสาวสุนันทา หามนตรี ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานอุดรธานี นำสื่อมวลชนทัศนศึกษาแหล่งท่องเทียวธรรมชาติดอนป่าเปือย บ้านหม้อ หมู่ 7 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ตามเส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝน Green Season  จ.บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ระหว่างวันที่ 29 ส.ค. -1 ก.ย. 67 โดยมีนายสนอง เข็มพรหมมา ประธานคณะกรรมการจิตอาสาพัฒนาดอนป่าเปือยและคณะกรรมการฯ ร่วมให้การต้อนรับพร้อมพาคณะ ททท.และสื่อมวลชนเยี่ยมชมป่าเปือยบนพื้นที่ 36 ไร่  โดยมีต้นเปือยขนาดใหญ่ อายุ 300-400 ปี ต้นใหญ่ที่สุดมีเส้นรอบวง 5.30 เมตร หรือ 5 คนโอบ และมีต้นเปือยขนาดใหญ่อยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย




ดอนป่าเปือยเปือยแห่งนี้  ยังเคยเป็นที่ปักกลดหลวงปู่ฟั่น อาจาโร เมื่อปี 2475  และด้วยเป็นป่าไม้โบราณนานาชนิด เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งนอกจากต้นเปือยแล้ว ยังมีกล้วยป่า ต้นบอนป่า ตาว อ้อยช้าง ต้นบุก ดูกใหญ่  ฯลฯ และยังมีพืชสมุนไพรหลากหลายชนิดที่หาได้ยาก ซึ่งได้ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2565




ความสำคัญของป่าเปือยแห่งนี้ยังมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับพญานาค โดยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง 15 ค่ำ เดือน 11 บั้งไฟพญานาค เมื่อปี 2543 - 2544 และแต่ละปีจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว คือ วันที่ 9 เมษายนทุกปี จะทำบุญตักบาตรหาบรรพบุรุษบนสะพานในป่า แห่งเดียวในจังหวัดหนองคาย กลางคืนฉายหนังให้ผีดูจนซอดแจ้ง และกิจกรรมวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 จุดเทียน 1,511 เล่ม บนราวสะพานอย่างสวยงามอลังการ พร้อมย้อนรอยฉายหนัง 15 ค่ำ เดือน 11 บั้งไฟพญานาค



นางสาวสุนันทาฯ ผอ.กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท. กล่าวว่า จากที่ได้เข้าไปดูในป่าชุมชนดอนป่าเปือยก็รู้สึกประทับใจ ที่เรียกว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มีความหลากหลายของพืชพันธุ์และมีต้นไม้ที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ อย่างเช่นต้นเปือยซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีเยอะขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ว่าจะมีเยอะ แต่มีขนาดที่แสดงถึงความเก่าแก่ของพื้นที่  นอกจากนี้ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ซ่อนอยู่ข้างใน ซึ่งเกิดจากการเล่าเรื่องของคนในชุมชนและอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด และก็มีการค่อยๆ เริ่มพัฒนาให้เห็นเกร็ดที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเชิงพืชพันธุ์หรือว่าเชิงความเชื่อ คิดว่าต่อไปถ้ามีการพัฒนาอีกซักเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็คือดีมากอยู่แล้วสำหรับการเริ่มต้น และก็ประทับใจเรื่องการเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องที่สนุกมาก ทำให้เราไม่เบื่อไม่เหนื่อยในการที่จะเดินไปในป่า ทำให้อยากจะเดินไปเลื่อยๆ ว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจอีกไหมหรือมีอะไรใหม่ๆ ในป่าแห่งนี้



ผอ.กองประชาสัมพันธ์ในประเทศฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพัฒนาพื้นที่ตรงนี้คือไม่อยากให้เรียกว่าการพัฒนา อยากให้มีการขยาย อย่างเช่นการเล่าเรื่องด้วยมนต์เสน่ห์ของการเล่าเรื่องชุมชน ถ้าคนเล่าเรื่องสนุก เล่าแล้วมีมิติ เล่าแล้วมีเกร็ดความรู้บวกกับความสนุกเข้าไปด้วย จะทำให้คนที่มาท่องเที่ยวชื่นชอบและบอกต่อได้ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและทำให้การท่องเที่ยวยั่งยืน ซึ่งอนาคตพื้นที่แห่งนี้จะบรรจุในปฏิทินเส้นทางท่องเที่ยวเสริมสิริมงคลตามความเชื่อเชื่อมโยงเส้นทางพญานาค ในพื้นที่ดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ จ.บึงกาฬ หนองคาย และอุดรธานี ต่อไป









"อรรถกร" รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมหนองคาย พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน ขณะที่น้ำโขงลดลงสวนทางลำน้ำสาขาหลัก "ห้วยโมง" ยังอ่วม น้ำเหนือไหลมาสมทบท่วมนาข้าว-บ้านเรือน ปชช. เขื่อนห้วยโมงเร่งระบายน้ำลงน้ำโขง


วันทึ่ 31 ส.ค. 2567 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 4 จุด คือ บ้านอุ๋มเย็น ต.น้ำโมง, ชุมชนดอนเขียว และบ้านปากทาง ต.กองนาง บ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยมีนายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย เขต 3 , น.ส.ชนก จันทาทอง  สส.หนองคาย เขต 2, นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ  พร้อม จนท.ชลประมานหนองคาย จนท.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ส่วนราชการ หน่วยงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์น้ำ  พร้อมร่วมกันมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม 160 ครัวเรือน 




จากนั้น รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะเดืนทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมพื้นที่ บ้านเจียมปรางค์ ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ โดยมีนายจรัญ กลางประดิษฐ นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นำส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมกันมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม 50 ครัวเรือน




สำหรับสถานการณ์น้ำจังหวัดหนองคาย ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีระดับน้ำโขงที่สูงขึ้นจนถึงจุดวิกฤตล้นตลิ่ง โดยเกิดภัยตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2567 ประสบภัย 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ท่าบ่อ อ.เฝ้าไร่ อ.โพนพิสัย อ.รัตนวาปี อ.ศรีเชียงใหม่ สถานการณ์ล่าสุดวันที่ 31 ส.ค. 2567 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงลดลง  59 เซนติเมตร โดยระดับน้ำโขงอยู่ที่ 11.98 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 22 เซนติเมตร สถานการณ์น้ำมากเฝ้าระวัง และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง




ในขณะที่น้ำโขงลดลง แต่สวนทางกับลำน้ำสาขาสายหลัก "ห้วยโมง" ยังคงระดับสูงขึ้น เนื่องจากมวลน้ำที่ไหลลงมาจาก จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู ไหลลงมาสมทบ ทำให้มีปริมาณในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 168.05 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) หรือ  11.79 เมตร รวมทั้งปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันติดต่อกันทำให้เกิดน้ำท่วมที่นาของชาวบ้าน บ้านเรือนประาชน ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ โดยเฉพาะพื้นที่บ้านอุ๋มเย็น ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเป็นจุดรับน้ำ พบว่าเริ่มได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและมวลน้ำที่ไหลมาจากทางตอนเหนือ จากการสำรวจเบื้องต้นพบน้ำได้ท่วมทุ่งนา ซึ่งชาวนาได้ปักดำข้าวไว้แล้วกว่า 500 ไร่



จากปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงลดลงและต่ำกว่าห้วยโมง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง จึงได้ดำเนินการเปิดบานระบายที่อาคารควบคุมระดับน้ำทั้ง 4 บาน เพื่อระบายน้ำจากลำน้ำโมงลงสู่แม่น้ำโขง ช่วยลดระดับน้ำท่วมขังในพื้นที่ คาดว่าปริมาณน้ำท่วมพื้นที่เกษตรและพื้นที่ลุ่มต่ำ จะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 - 2 วัน










Friday, August 30, 2024

ผจว.หนองคาย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำโขงเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตรกว่า 1500 ไร่ ในพื้นที่ อ.รัตนวาปี พร้อมมอบถุงยังชีพ มอบอาหารสัตว์พระราชทาน


วันที่ 30 ส.ค.2567 เวลาประมาณ 11.30 น. นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายสมพร สีดา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย และคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนและติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน ที่บ้านดอนบก ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี  โดยมีนายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอรัตนวาปี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนวาปี, สถานีเรือรัตนวาปี, สภ.รัตนวาปี, ร้อย.ฉก.ทพ.2104 ฉก ทพ.21, ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองโพนพิสัย, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, นำผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายสำรวจพื้นที่




จากการรายงานของสถานีเรือรัตนวาปี ช่วง เวลา 08.00 น. ของวันที่ 30 ส.ค. 67 ระดับน้ำที่วัดได้อยู่ที่ 18.30 เมตร ระดับน้ำต้องเฝ้าระวังอยู่ที่ 16.00 เมตร และระดับน้ำที่ถือว่าวิกฤติอยู่ที่ 19.00 เมตร พื้นที่อำเภอรัตนวาปี จึงเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง แต่ปัญหาเกิดจากแม่น้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขงไม่สามารถระบายน้ำลงได้ จึงทำให้เอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน โดยพื้นที่ ต.รัตนวาปี ถูกน้ำท่วมมีเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ 3 หมู่บ้าน 17 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม  ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 บ้านน้ำเป หมู่ที่ 9 บ้านวารีภิมุข และหมู่ที่ 10 บ้านดอนบก



จากนั้น ผจว.หนองคาย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน และได้มอบถึงยังชีพให้กับนางบุญยืน ผิวพรรณ และนางวรรณนา มาลัยไธสงค์ ราษฎรบ้านดอนบก  พร้อมยังได้มอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย และมอบถุงยังชีพของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย และถุงยังชีพ ข้าวปลาอาหารแห้ง และน้ำดื่มจากหน่วยงานในพื้นที่ อ.รัตนวาปี ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 15 ราย



ผจว.หนองคาย ยังได้เดินทางลงพื้นที่ท่าทรายบ้านต้อน หมู่ที่ 2 บ้านต้อนใหญ่ ต.บ้านต้อน อ รัตนวาปี  โดยมีนายธีระวรรธน์ เวชอรรถสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านต้อน นำสำรวจติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งจุดนี้เป็นพื้นที่ต่ำน้ำโขงได้ล้นตลิ่งเข้าพื้นที่การเกษตรแล้ว ผู้ว่าราชจังหวัดได้วางแนวทางป้องกันและช่วยเหลือประชาชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้รับผิดชอบในพื้นที่เตรียมรับสถานการณ์ตลอด 24 ชม. สำหรับตำบลบ้านต้อน ถูกน้ำท่วมมีเนื้อที่ประมาณ 1,200 ไร่ จำนวน 5 หมู่บ้าน 31 ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ประกอบด้วย หมู่ที่ 3 บ้านดอนเหมือด หมู่ที่ 4 บ้านดงหอ หมู่ที่ 6 บ้านดอนบก หมู่ที่ 7 บ้านต้อนหัวนา และหมู่ที่ 9 บ้านหนองลาด




จากนั้นคณะได้เดินทางไปที่โครงการประตูระบายน้ำห้วยคาด ต.นาดง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เพื่อตรวจเยี่ยมการระบายน้ำลงแม่น้ำโขง ซึ่งแม่น้ำห้วยคาดรับน้ำมาจาก ต.บ้านต้อน ต.โพนแพง และ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จุดนี้เป็นจุดรับน้ำและระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง แต่ด้วยระดับน้ำโขงที่สูงขึ้นสูงกว่าแม่น้ำสายรอง โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าระดับน้ำโขงมีความสูงอยู่ที่ 8.27 เมตร สวนระดับแม่น้ำสายรองอยู่ที่ 6.55 เมตร แม่น้ำโขงสูงกว่าแม่น้ำสายรองถึง 1.72 เมตร ส่งผลให้แม่น้ำโขงผลักแม่น้ำสายลอง ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีปิดประตูระบายน้ำและใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออก แต่ติดปัญหาที่เครื่องสูบน้ำใช้ได้แค่ 2 เครื่อง จากทั้งหมด 4 เครื่อง อีก 2 เครื่องชำรุด เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2557 นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ทราบถึงปัญหาจึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเครื่องสูบน้ำเข้ามาเพื่อช่วยในการระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรอย่างเร่งด่วน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ อัตราการสูบ 28,000 ลิตรต่อนาที มาติดตั้งเพิ่มจำนวน 1 เครื่อง 


โภควินทร์ / เพจชุมชนคนรัตนวาปี